ศาล เจ้าแม่ต้นไทร ไม่เชื่ออย่าลบหลู่ ให้โชคนับไม่ถ้วน!

ม.7 ต. หัวสำโรง ห่างจากบ้านกำนันตำบลหัวสำโรงไปทิศตะวันออกเฉียงเหนือประมาณ 600 เมตร มีทางแยกเข้ามาเป็นทางโดยเฉพาะเหมือนเมืองลับแล ศาล เจ้าแม่ต้นไทร

มีในราวปีพ.ศ. 2460 เป็นศาลเจ้าขนาดเล็กมุงด้วยจากใต้ต้นไทรใหญ่ อยู่บนเนื้อที่ของ นางซิ้มเส่ย แซ่สือ เนื่องจากมีปรากฏการณ์ต่างๆที่ทำให้เจ้าของที่ต้องตั้งศาลให้อยู่ตรงบนพื้นที่แยกสามแพ่ง

(รูปง่ามหนังสติ๊ก) ผู้คนในสมัยนั้นเดินผ่านศาลเจ้านี้เพื่อไปมาหาสู่กันเป็นทางเข้าออกติดต่อสื่อสารกัน ก็ปรากฏปาฏิหาริย์ให้ผู้คนพบเห็นก็มากราบไหว้ขอพร ช่วยเหลือการเจ็บไข้ได้ป่วย

เคยมี ชายคนหนึ่งไม่เชื่อแล้วลองดีโดยจุดไฟเผาศาลทำให้ศาลและต้นไทรใหญ่ได้รับความเสียหาย ผลปรากฏวันรุ่งขึ้นชายที่ทำการเผาศาลก็ได้เสียชีวิต ปาฏิหาริย์ที่ปรากฏทำให้

นางซิ้มเส่ย แซ่สือ ตั้งใจอธิษฐานบริจาคที่ดินเป็นที่ตั้งศาลโดยมีอาณาเขตที่เห็นได้ชัดเจน

ในปี 2480 สมัยท่านกำนันกระจ่าง นพเกตุได้เป็นผู้มีอุปการะคุณนำการก่อสร้างพร้อมด้วยชาวบ้านที่ศรัทราและเจ้าของที่ได้ร่วมกันจัดสร้างศาล เจ้าแม่ต้นไทร ด้วยโครงสร้างไม้ มุงด้วยสังกะสี

เป็นศาลเจ้าที่สวยงามในสมัยนั้นขนาดกว้าง 5 เมตร ยาว 6 เมตร เป็นศาลเจ้าที่ ที่มีขนาดใหญ่มีแท่นสถิตเทพเจ้ามีป้ายเป็นภาษาจีน มีผ้าม่านบังวิมาน แท่นตั้งกระถางธูปชั้นบนและชั้นล่าง มีเซียมซี

มีไม้คู่โยนเสี่ยงทาย มีร้านเทวดาด้านหน้า ผู้คนจะใช้ทางผ่านศาลเจ้าทั้งด้านซ้ายและด้านขวาเพื่อไปบ้านเรือนของตน ผู้คนก็มากราบไหว้ขอพร บนบานศาลกล่าวให้เจ้าแม่ช่วยเหลือ

จากโรคภัยไข้เจ็บ การทำมาค้าขาย ผู้คนก็ได้รับผลสำเร็จตามปรารถนา ก็นำเครื่องแก้บนมาถวายคือหัวหมู 1 หัว เหล้าขาว 1 หาบ ดอกบัว 1 คู่ (ดอกบัวทำจากไม้เป็นรูปคล้ายจู๋เด็กชายแล้วทาด้วยสีแดงยาวประมาณ30 ซม.)

ผู้คนที่นับถือกันส่วนใหญ่เป็นคนเชื้อสายจีนได้แก่คนหมู่ 7 ( หมู่สวน สวนบน สวนล่าง เกาะลอย เกาะแก้ว) คนเชื้อสายเขมร ( หมู่บ้านใน ชาวตลาดสำโรง หมู่บ้านภูมิเจริญ)

เทศกาลตรุษจีน สารทจีน ผู้คนเชื้อสายจีนจะนำขนมเทียน ขนมเข่ง หมูเห็ดเป็ดไก่ มาเซ่นไหว้กันเนืองแน่น คนเชื้อสายเขมรก็จะนำหัวหมู เหล้า

ดอกบัวมาแก้บนเป็นประจำ ประเพณีต่างๆเช่น เซ่นผี เจ้าพิธีก็เรียกว่ากล่าวอัญเชิญเทพที่นับถือมาร่วมพิธีก็มีการเรียกอัญเชิญเจ้าแม่ต้นไทรร่วมด้วย

วันเกิดของศาลเจ้าแม่ต้นไทรตรงกับ 15 ค่ำ เดือน 7 จะมีการนำหมูทั้งตัวทาสีแดงมาเซ่นไหว้และก็แจกจ่ายกันไปประกอบอาหาร นางซิ้มเส่ย แซ่สือ ได้อพยพไปอยู่ที่อื่นได้ขายที่ดินให้ผู้อื่น

แต่มอบหมายให้ครอบครัวให้นายจุ๊ย แซ่เตียว (นพรัตน์)ดูแลทำความสะอาดพื้นที่ นานวัน อาคารไม้ก็ทรุดโทรม ปลวกกิน น้ำไหลผ่านจึงทำให้ศาลทรุดโทรมมาก

ในปี2528 สมัยท่านกำนันสมบัติ นพเกตุ และท่านสารวัตรกำนันสุรศักดิ์ ลีลายุทธโธ ประสานงานให้นายเหยี่ยว แซ่เตียว เป็นผู้นำในการ

จัดสร้างศาลเจ้าแม่ขึ้นใหม่ เป็นอาคารปูน หลังคามุงกระเบื้อง มีแท่นบูชา มีแผ่นป้ายตามแบบอาคารไม้ของเก่า มีแท่นบูชาเทวดา

ดังศาลเจ้าทั่วไป แต่เซียมซี และไม้คู่โยนเสี่ยงทาย ไม่ได้จัดทำ กลางเดือน7 ทุกปีก็มีการบวงสรวงและมีการเลี้ยงโต๊ะจีนที่กลางตลาดหัวสำโรง โดยมีท่านสารวัตรกำนันสุรศักดิ์

ลีลายุทธโธ เป็นผู้นำการบวงสรวง ปาฏิหาริย์ยังปรากฏให้เห็น เช่น มีงูเห่าใหญ่ 1 คู่ มีโบว์แดงที่คอ ปรากฏให้คนผ่านเห็น คนผ่านพูดคำหยาบเอาดอกบัวไปเล่น

จะเกิดอาการเท้าบวมแดงเดินไม่สะดวก ต้องรีบมาขอขมา เอาดอกบัวมาเก็บที่เดิม ณ ปัจจุบันบ้านเมืองเปลี่ยนไปวิถีชีวิตก็เปลี่ยนไป บุคคลผู้นำสมัยเก่าแก่

ก็ลาลับจากไปลูกหลานในปัจจุบันก็ไปทำมาหากินเรียนรู้ตามวิถีชีวิตของแต่ละคนถึงเวลาแล้วที่ฝากความหวังไว้กับคนรุ่นใหม่ที่จะเข้ามา

พัฒนาอนุรักษ์และจดทะเบียนขึ้นเป็นศาลเจ้าถูกต้องตามกฎหมาย กาลเวลาก็ทำให้ศาลทรุดโทรมถึงเวลาที่ต้องช่วยกันอนุรักษ์และพัฒนา

เว็บหวย ออนไลน์ดีที่สุด

เว็บแทงหวยแทงหวยรัฐบาล แทงหวยออนไทยไลน์ เว็บหวยที่ดีที่สุด สามารถลุ้นหวยได้ทุกวัน มี หวยออนไลน์ ให้เล่นมากมาย ลุ้นล้านได้ทุกงวดไม่ว่าจะเป็น หวยที่นิยมมากที่สุด อย่าง หวยรัฐบาล หวยฮานอย เปิดรับทายผล ทุกวัน หวยฮานอยออกผลทุกวัน